โบท็อกซ์ คือ สารสกัดที่เรียกว่า “โบทูลินัม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) เป็นนวัตกรรมเพื่อการลดริ้วรอยและปรับรูปใบหน้าซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน มีงานวิจัยที่รองรับถึงเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยอย่างกว้างขวาง เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เพียงลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า

การทำงานของโบท็อกซ์
หลังจากแพทย์ฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในส่วนที่ต้องการรักษาแล้ว สารลดเลือนริ้วรอยโบท็อกซ์จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ หรือจะเรียกได้อีกอย่างว่าเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว จึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัว ซึ่งระยะเวลาที่จะเห็นผลหลังจากฉีดโบท็อกซ์ แล้วจะอยู่ที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ และจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆ หดตัวจนกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ ที่ฉีดด้วย
โบท็อกซ์ แก้ไขปัญหาใดได้บ้าง
- ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ลดริ้วรอยย่นหว่างคิ้ว
- ลดริ้วรอยตีนกา
- ลดริ้วรอยบริเวณสันจมูก
- ปรับยกมุมปากขึ้น
- ลดรอยพับและรอยย่นบริเวณคาง
- ปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ
- ลดภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ รักแร้เปียก กลิ่นตัว
- ลดกล้ามเนื้อน่อง
ฉีดโบท็อกซ์ อยู่ได้นานแค่ไหน ?
- ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์จะไม่ได้อยู่อย่างถาวร ซึ่งปกติแล้วโบท็อกซ์จะอยู่ได้นาน 4-8 เดือน โดยอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์นั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้
- ยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ฉีด : หากเลือกโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพราะร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อกซ์ โดยโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนสูง
ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกซ์ : ถ้าเป็นบริเวณกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์จึงสั้นกว่า กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ ซึ่งต้องอยู่ในการประเมินโดยแพทย์ที่
การปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์
ก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์จำเป็นจะต้องเข้าพบแพทย์เสียก่อน เพื่อทำการตรวจผิวหนังและปรึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่จะฉีด
- งดรับประทานยา หรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
- งดรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
- งดรับประทานอาหารที่เผ็ดมากๆ หรือแสบร้อนจนหน้าแดง
- งดรับประทานอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
- งดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ไม่ควรประคบร้อน

การปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์
หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้ว ผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งมักได้แก่
- ไม่นอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ เพราะโบท็อกซ์อาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการให้นอนหงายหนุนหมอนสูงในคืนแรกของการรักษา
- ไม่ประคบร้อนและระวังอย่าให้ลมร้อนจากไดร์เป่าผมไปเป่าบริเวณที่เพิ่งฉีดโบท็อกซ์มาเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำการฉีดโบท็อกซ์มาเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เนื่องจากการทำให้ยากระจายไปออกฤทธิ์ยังบริเวณอื่นได้
- หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากเข็มฉีดยา ให้ใช้น้ำแข็งประคบได้
- ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา และหากพบความผิดปกติก่อนวันนัด เช่น หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก ควรติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อปรึกษาว่าควรเลื่อนการ ฉีดโบท็อกซ์ออกไปก่อนดีหรือไม่